เมื่อไข้หวัดใหญ่บุกบ้าน

เมื่อไข้หวัดใหญ่บุกบ้าน

เมื่อไข้หวัดใหญ่บุกบ้าน

 

ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ โรคฮอตฮิตติดเทรนไปไหนก็ได้ยินใครๆ พูดถึงคงหนีไม่พ้น ‘โรคไข้หวัดใหญ่’ ที่กำลังระบาดหนักค่ะ ซึ่งถ้าถามว่ามีใครอยากจะป่วยอยากจะเจ็บไหม คงไม่มีใครอยากเจ็บป่วยแน่นอน และก็คงไม่อยากให้ใครในบ้านเจ็บป่วยเป็นโรคใดๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบ้านไหนที่มีเด็กและผู้สูงอายุอยู่ด้วยแล้ว คงยิ่งอยากให้โรคทั้งหลายและโรคไข้หวัดใหญ่นี้ออกไปให้ไกลห่างเลยจะดีมาก

 

จากข้อมูลของสำนักงานระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560-7 สิงหาคม 2560 พบผู้ป่วยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วถึง 58,564 รายจากทั่วประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย และอัตราการป่วยก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะโรคไข้หวัดใหญ่นี้เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ง่ายมาก การหายใจเอาเชื้อไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศจากการไอ จาม ของผู้ป่วยเข้าไปทำให้มีโอกาสการติดเชื้อสูงมาก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย

 

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

อาการของผู้ป่วยหลังจากได้รับเชื้อ 1-3 วัน หรือบางรายอาจจะนานถึง 7 วัน จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คัดจมูกน้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ และอาจจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย โดยโรคนี้จะแสดงอาการประมาณ 3-5 วัน ซึ่งถ้าอาการไม่หนักมากจะสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ แต่ในบางรายที่มีไข้สูงมาก รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่ได้ก็อาจจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และโรคไข้หวัดใหญ่นี้อาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนในผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งรุนแรงจนอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ด้วยค่ะ

ทั้งนี้หากใครที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มีอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของโรคที่แท้จริง เนื่องจากไข้หวัดใหญ่มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็จะแสดงอาการรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป การรักษาจึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษาค่ะ

 

การป้องกันและอยู่ร่วมกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่

1.ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ

2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

4.หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง ล้างมือให้สะอาด แยกของใช้ส่วนตัว

5.หากต้องดูแลหรืออยู่ใกล้ผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค และเมื่อต้องออกไปในแหล่งชุมชนที่มีผู้คนจำนวนมาก การสวมหน้ากากอนามัยก็ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง ไม่เพียงแค่โรคไข้หวัดใหญ่ค่ะ

6.ควรหยุดเรียน หยุดงาน เพื่อรักษาตัวเองให้หาย และไม่เป็นการแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้กับผู้อื่น

7.ทางป้องกันที่ดีอีกทางหนึ่งก็คือ การฉีดวัคซีนทางเลือกเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยสามารถฉีดได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถลดอัตราการเจ็บป่วยได้ถึง 70-90% และถึงแม้วัคซีนจะไม่สามารถป้องกันโรคได้ถึง 100% ทว่าส่วนใหญ่ผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อเป็นโรคจะมีอาการไม่รุนแรงนักเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดค่ะ

 

แต่เนื่องจากไม่มีวิธีไหนป้องกันเชื้อโรคร้ายได้ 100% ซึ่งก็หมายความถึงคุณ และบุคคลในครอบครัวยังมีโอกาสติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ รวมถึงโรคอื่นๆ อีกมากมายอยู่ การป้องกันความเสี่ยงอีกทางนอกจากการรับวัคซีนและดูแลร่างกายให้แข็งแรงคือ ‘การทำประกันสุขภาพกรณีเจ็บป่วย’ ค่ะ ซึ่งการทำประกันสุขภาพนั้นก็จัดรวมอยู่ในการ ‘วางแผนการเงิน วางแผนชีวิต’ ถ้าหากเจ็บป่วยแบบไม่คาดคิดแผนชีวิตตรงนี้ก็สามารถช่วยซัพพอร์ตคุณได้ดีทีเดียวนะคะ

และอย่างที่ได้บอกไปด้านบนค่ะว่าคงไม่มีใครอยากให้ตัวเราหรือคนที่เรารักเจ็บป่วย เพราะการไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐนั้นจริงอย่างที่คนโบราณเขาว่ากันค่ะ หรืออย่างน้อยๆ การไม่เป็นโรคก็ทำให้เราไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ดังนั้นอย่าให้คำว่า ‘เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย (เพราะไม่ได้ทำประกันสุขภาพ)’ เกิดขึ้นกับครอบครัวที่เรารักและห่วงใยกันเลยนะคะ

 

สนใจ ‘วางแผนการเงิน วางแผนชีวิต’ ติดต่อเราสิคะ DD-Wealth ยินดีให้กับคำปรึกษาในทุกมิติของชีวิตของคุณ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ

Surada,IC

DD-wealth