ถ้าพูดถึงทะเลที่สวยติด 1 ใน 5 ของโลกไม่มีใครไม่รู้จัก "มัลดีฟส์ " เกาะสวรรค์สำหรับคนรักทะเล
Jida ก็เป็นสาวกคนรักทะเลเช่นกันคะ วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังว่า ถ้าเราเตรียมแผนปักหมุดว่าจะแปลงร่างเป็นปลาแหวกว่ายไปตามเกลียวคลื่นใส่บีกินี่เริ่ดๆ อาบแดดจิบไวน์คูลเลอร์ นั่งดูพระอาทิตย์ตกน้ำยามเย็น มันช่างสุดยอดฟินติ่งทะเลจริงๆ แค่จินตนาการร่างกายก็ต้องการทะเลแล้วใช่ไหมคะ?
พวกเรากลับมาก่อนค่ะ ยังๆ มัลดีฟส์นะจ๊ะ ไม่ใช่บางแสน... ที่นึกปุ๊บแพ็คกระเป๋าไปได้เลย มาๆ Jida มีอะไรจะบอก ถ้าหากเราจะข้ามน้ำข้ามทะเลไปหาความสุข เราควรต้องรู้และเตรียมอะไรบ้าง?
เรื่องที่ 1
มาก่อนเลย งบประมาณ ภาษาชาวบ้านเรียก "เงิน" ค่ะสัมพันธ์กับช่วงเวลาการท่องเที่ยวด้วยว่าไปช่วงไหน ถ้าชอบแบบน้ำใส แดดเต็ม ถ่ายรูปสวย ดำน้ำดูปลาฟินสุดๆ ช่วง High Season เลยจ้า
หน้าร้อนของมัลดีฟส์คือช่วงประมาณ ธันวาคม-เมษายน โอกาสเจอฝนให้อารมณ์เสียมีน้อยคะแต่ราคาก็ถึงใจใช่เลยเหมือนกันนะคะ แพ็คเกจช่วงนี้จะอยู่ประมาณ 30,000-90,000 บาท (สำหรับ 2คืน 4 วัน) แล้วแต่ราคาที่พักอยู่ในเกรดไหน
แต่ถ้าให้แนะนำจากประสบการณ์ มัลดีฟส์ไปช่วง Low Season เดือน พฤษภาคม-พฤศจิกายน ก็ไม่ได้ขี้เหร่นะคะ เพราะฝนบ้านเค้าตกไม่เหมือนบ้านเรา ฝนจะตกช่วงแป๊บเดียวแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น ไม่นานน้ำก็ใสใช้ได้ค่ะ ลมจะแรงหน่อยแดดพอมีบ้าง แต่ราคาสิคะ 'ต่างกันแบบได้ใจเลย' เพราะไม่ใช่หน้าท่องเที่ยว เราจึงใช้งบเพียง 25,000-60,000 บาท อาจได้พักโรงแรมระดับ Super ได้เลยทีเดียว อยู่ที่เราวางแผนการเงินประกอบกับข้อมูลแน่นแค่ไหน
เรื่องที่ 2
เลือกเดินทางตามสไตล์ที่ตัวเราชอบ ซื้อทัวร์เป็นแพ็คเก็จราคาตามงบที่เราเตรียมตามข้อ 1 หรือทำทัวร์เองค่ะ ฉันสามารถ!!
ตั้งแต่หาข้อมูลการเดินทาง เริ่มจากไปสายการบินไหนดี? เพราะมีต่อเครื่องที่ศรีลังกา หรือจะบินตรงบางกอกแอร์เวย์ อ้อ!! แนะนำเดี๋ยวนี้มี 'โลว์คอร์ส' แล้วนะคะไปได้สบายเลย ใช้เวลาบินตรงแค่ 3 ชม.40 นาที ไม่เกิน 4 ชม. เท่านั้นก็ถึงสนามบินมาเล่ไม่ใช่มาเลเซียนะคะ
" มาเล่ " สนามบินเมืองท่าของมัลดีฟส์ ก่อนที่จะเดินทางมุ่งสู่เกาะต่างๆ ของมัลดีฟส์ซึ่งมีเป็นหมื่นๆ เกาะเลยค่ะ ส่วนใหญ่ 1 เกาะ จะมี 1 รีสอร์ท แต่ละเกาะควรหาข้อมูลไปก่อนว่า แนวปะการังเป็นอย่างไร? จะได้อารมณ์สำหรับติ่งทะเลทั้งหลาย ไปทั้งทีจัดไปค่่ะเลือกเอาที่สวยๆ ซะหน่อย
การเดินทางมุ่งสู่เกาะที่จะไปมี 2 ทางเลือก
- ไปเรือโดยสาร หรือเรือสปีดโบ๊ท ถ้าไม่ไกลมากก็โอเคใช้เวลาไม่นาน ราคาเริ่มต้น 3พันกว่าๆ รวมทั้งขาไปแล
- ะขากลับค่ะ ถ้าไกลราคาก็จะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
- เครื่องบินน้ำ Seaplane ราคาเริ่มต้น 16,### สะดวกและได้อารมณ์มากค่ะ ไปทั้งทีออกไปไกลหน่อย น้ำใส แนวปะการังสวย ปลาเล็กปลาน้อย ฉลาม กระเบนเยอะค่ะ จ่ายเพิ่มนิดๆ หน่อยๆ ก็จัดไปจ้า
ตอน Jida ไปชอบค่ะเหินฟ้า....ได้เห็นพื้นน้ำและหมู่เกาะต่างๆ ฟินมากกกกกก อ้อ!! เครื่องบินน้ำไม่มีแอร์นะคะแต่ก็ไม่ร้อนค่ะ นั่งไปประมาณ 20 นาที จุดหมายปลายทางคือ " Safari Island Resort " ลงจากเครื่องบินน้ำเครื่องจะจอดเทียบท่ากลางมหาสมุทรอินเดียมองเห็นที่พักค่ะ จะมีเรือมารับเพียงแค่ 1 นาที ก็ถึงเกาะแล้ว สะดวกสบายมากๆ เท้ายังไม่โดนน้ำทะเลเลยจ้าาาา
เรื่องที่ 3
พักที่ไหนดี? ต่างกันด้วยเรื่องราคาและว่ากันด้วยเรื่องปากท้อง กินหรูอยู่แพง คืนหนึ่งก็หนึ่งหมื่นปลายๆ ถึงสองหมื่นกลางๆ ถ้าอยากประหยัดอาหารไม่รับ ก็มีเช่นกันค่ะตอนที่ไป Jida เลือกแบบ include ทุกสิ่งค่ะ ที่พักขอยื่นเข้าไปในทะเล อาหารทุกมื้อ ประหนึ่งขอแค่มีทะเล มีปลาสวย มีน้ำสีฟ้าใสๆ บรรยากาศคูลๆ จบค่ะยอมจ่าย อิอิ
เดินทางถึงที่พักก็เช็คอินให้เรียบร้อย เราไปถึงที่นั่นประมาณบ่าย 2 โมง ตามเวลาของมัลดีฟส์ ถ้าเป็นบ้านเราก็ประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ โอ้โห้....ออกจากไทยตั้งแต่ 9.30 น. เมาบรรยากาศทะเลจนลืมหิว นึกขึ้นได้อีกทีตอนจะเข้าห้องท้องร้อง ทำไงดี ??
สบายมากค่ะ เดินสิคะ!! บาร์ที่นี่เปิดตลอดค่ะคุณ 'มีบริการอาหารว่าง' เปิดวันละ 2 รอบคือช่วง 10.00-12.00 น. และ 14.00-17.00 น. จะมีอาหารว่างจำพวก แซนด์วิช ค็อกเทลต่างๆ น้ำอัดลม กาแฟ พร้อมเสิร์ฟตลอดเวย์...จัดไป!! สบายท้องแล้วเราก็เข้าห้องเตรียมตัวลุยค่ะ!!
เริ่มโปรแกรมแรกหลังจากวางกระเป๋าเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว เราก็ว่าจะเดินสำรวจรอบๆ เกาะกันสักหน่อยค่ะ โดยได้นัดแนะกับเรือของรีสอร์ตให้พาล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก น้ำสวยดีเหมือนกันนะคะ เรือที่นั่งจะเป็นเรือไม้มีที่นั่งเป็นเบาะ สามารถนอนได้ นั่งได้ ล่องเรือชมบรรยากาศชิลมากค่ะคุณ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็กลับมาอาบน้ำทานดินเนอร์มื้อแรกพอดีค่ะ
ดินเนอร์มื้อแรก เป็นบุฟเฟต์นานาชาติ ส่วนใหญ่เป็นเมนูที่ทำจากไก่หลายเมนูค่ะ มีปลาคิงฟิชนึ่งรสชาติอร่อย เนื้อนุ่มและสดมากค่ะ แต่ที่น่าแปลกคือทะเลมัลดีฟส์ไม่มีกลิ่นคาว และเราจะไม่ค่อยรู้สึกเหนียวตัวเหมือนที่อื่นนะคะ
เอ...ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าแต่เรื่องกลิ่นสงสัยเลยถามเจ้าหน้าที่ เค้าบอกชาวพื้นเมืองที่นี่มีอาชีพให้บริการตามรีสอร์ตเป็นหลักไม่มีการทำประมงทะเลไม่จับสัตว์น้ำ ทุกอย่างนำเข้าจากต่างประเทศหมดทำให้ไม่มีกลิ่นคาวใดๆ เลยค่ะ
ทุกๆ วัน เวลา 3 ทุ่มครึ่งที่นี่เค้าก็จะมีกิจกรรมการให้อาหารสัตว์น้ำ เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน กันด้วยนะคะ เราก็จะได้มีโอกาสได้เห็นฉลามในน้ำที่ใสมากกกกกก...ลืมบอกค่ะ เล่นน้ำใสมากๆ ทำตัวให้ชินนะคะเราจะมีลูกฉลามเป็นเพื่อนมากันเป็นฝูงเลยค่ะประมาณ 10 กว่าตัว สวยน่ารักและไม่ใช่ฉลามกินคนแต่ถ้าเป็นแม่ฉลามก็ตัวใครตัวมันนะคะ5555 ถึงเจ้าหน้าที่จะบอกว่าไม่ใช่ฉลามกินคนแต่เราก็คงไม่ชินใช่ไหมคะ?
หลังจากดูให้อาหาร "ฉลาม" เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเข้านอน...แต่ยังค่ะ!
ยังหลับไม่ได้ 'ทุกอย่างตื่นตาตื่นใจไปหมด ' พอเข้าห้องพักแอร์เย็นๆ เรายังสามารถนั่งชิลๆ ดูปลาที่มาเล่นไฟที่โต๊ะรับแขกในห้องนอนได้อีกนะคะ จะมีปลาหลากหลายพันธุ์มาแหวกว่ายให้เราได้ดูทั้งคืน...รับรองว่าฝันดีแน่นอนเพราะมีความสุขมากค่ะ
ในช่วงที่ Jida ไปเที่ยวนั้น คือช่วงวันที่ 29-1 กรกฎาคม 2560 น้ำจะขึ้นช่วงเช้า แล้วพอถึงช่วงเย็นๆ น้ำก็จะลงค่ะ เพราะฉะนั้นเช้ามาน้ำขึ้นมาถึงเชิงบันไดบ้านพัก ไม่ต้องกังวลนะคะ น้ำขึ้นแต่ลงไปคือยืนถึงค่ะ เพราะระดับน้ำสูงแค่ประมาณหน้าอกเท่านั้นเอง (สำหรับความสูง 165 ซม.)
อากาศยามเช้าก็สดชื่น...สูดหายใจเก็บอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอดเลยนะคะ ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น ท้องฟ้าสีครามจริงๆ ค่ะค่อยๆ มีพระอาทิตย์สาดแสงออกมา มองลงไปในน้ำก็จะเห็นปลาตัวเล็กๆ เช่น ปลาการ์ตูน เป็นต้น โชคดีที่บ้านที่ Jida พักนั้นมีแนวปะการังอยู่ เราจึงเห็นพวกปลาตัวเล็กๆ มาหาอาหารกันเยอะ แค่ยืนแล้วใส่แว่นว่ายน้ำธรรมดาก้มหน้าลงในน้ำก็มองเห็นชัดเจนเลยค่ะ
สำหรับ กิจกรรมของวันนี้ มีให้เราเลือกหลายแบบเลยค่ะ แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมชมชอบสุดๆ ก็เห็นจะเป็นการไปดำน้ำตามเกาะต่างๆ โดยเค้าก็จะมีเรือพาไปเช่นเดิมค่ะ ซึ่งเรือจะออกเที่ยวแรกช่วงหลังอาหารเช้า ก็คือประมาณ 10 โมง และกลับมาช่วงบ่ายๆ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชม.ด้วยกัน อ้อ!! ลืมบอกไปว่าสำหรับการไปดำน้ำที่ว่านี่ เค้าจะดำน้ำแบบใช้ Snorkel นะคะ ไม่ได้ต่อถังอ็อกซิเจน ใส่ตีนกบเต็มยศอะไรขนาดนั้น...
แต่ถ้าใครไม่อยากออกไปดำน้ำนอกเกาะ เจ้าหน้าที่เค้าก็แนะนำว่าตรงบริเวณรอบๆ เกาะของที่ "ซาฟารี รีสอร์ท" จะเป็นหน้าผาทะเล ดำน้ำที่นี่ไม่ต้องออกไปตามเกาะก็สวยงามไม่แพ้กับที่อื่นเลยค่ะ...รออะไรล่ะคะ Jida ก็เลยไม่ออกค่าาา 55555 เรียกว่าใช้เวลาในรีสอร์ทได้อย่างคุ้มค่ามากๆ ดำผุดดำว่ายประหนึ่งเป็นเมอร์เมต ปลากับปะการังของที่นี่เค้าเยอะแล้วก็สวยงามมากจริงๆ ค่ะ
บริการที่ include อีกอย่างที่ถูกใจมากคือ "สปา" ค่ะ เป็นแบบนวดไทยแท้ๆ ดำน้ำมาเหนื่อยๆ สบายมากขอบอกเลย แถมหมอนวดก็เป็นคนไทยอีกด้วยค่ะ หลังนวดก็มีชาอุ่นๆ ให้จิบได้อารมณ์เข้าไปอี๊กกก อัตราค่าบริการปกติ 1 ชม. ราคา 50 US แพงมากค่ะ!! แต่ถ้าเลือกก่อนตอนวางแผนไป ก็จะช่วยประหยัดได้ไม่ต้องจ่ายเยอะค่ะ สู้เอาเงินไป Tip แม่หมอดีกว่า นวดดีชนะเลิศไปเลยจ้าาาา
เช้านี้กลับแล้วค่ะ...ฟ้าสวยน้ำใสไปอี๊กกก สัญญาว่าจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน แต่ต้องขอตัวกลับไป Plan ก่อน ลืมบอก...สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมตลอดทริปนี้เลยก็คือ "ครีมกันแดด" ค่ะเอาไปเยอะๆ เลยสาวๆ เพราะความดำไม่เข้าใครออกใคร Jida เองก็ประมาณดำจนลืมขาวไปเลยจ้า ขนาดกันแดด SPF 50++ นะเนี่ย อีกเรื่องนึงค่ะ งานนี้เป็นทริปแรกที่ไปเที่ยวแล้วไม่ได้ช้อป ฉะนั้นขอเสนอแลกเป็นเงิน Dollar US ก้อได้ค่ะไม่ต้องกังวลไป
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดทริปนี้
- ประมาณ 60,000 : คน (สำหรับ 2 คืน 3 วัน)
- ใช้เวลาเตรียมงบประมาณ 1 ปี เก็บเพื่อท่องเที่ยวหาประสบการณ์ 5,000 : เดือนค่ะ
Jida อยากจะบอกว่าบางทีเที่ยวเองก็แพงกว่านะคะ ติ่งทะเลทั้งหลายอาจจะพูดอีกว่าแค่เตรียมเรื่องแรกก็ยากแล้วเจ้! 555
ฟังพี่นะน้อง..." เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน " อยากสำเร็จต้องจดจ่อ เดี๋ยวก็เหลือแค่ทะเลไทยนะขอบอก ท่องไว้ๆ มัลดีฟส์ ค่ะ มัลดีฟส์เท่านั้น!! น้ำทะเลสีฟ้ากับท้องฟ้าสีคราม โอ๊ยยยย แค่คิดก็ฟินแล้วค่าาาาา
ก่อนจบทริปมัลดีฟส์นี้ Jida ก็มีประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ อยากมาเล่าสู่กันฟังค่ะ โดยอยากจะบอกพวกเราหลายๆ คนเอาไว้ว่า...
การที่เรามีเป้าหมายที่จะเป็น "ผู้พิชิตความมั่งคั่งมีอิสรภาพทางการเงิน" ทุกอย่างต้องมาพร้อมกับความสุข อย่าลืมที่จะเก็บเกี่ยวความสุขกับสิ่งที่เราชอบ เล็กๆ น้อยๆ เช่น การท่องเที่ยวโดยต้องไม่กระทบกับเป้าหมายใหญ่ที่เราตั้งใจ
ทุกอย่าง 'เราวางแผนการเงินได้แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย' อย่าได้กังวลค่ะ ชีวิตดี๊ดี...พบกันทริปหน้าไปเที่ยวที่ไหนดีเอ่ย?
JIDAPA SRIMUANG, CFP®
DD