เราทุกคนล้วนเกิดมามีความฝัน มีเป้าหมายในชีวิต และต้องการให้ฝันหรือเป้าหมายนั้นสำเร็จหรือเป็นจริงตามที่ต้องการ แต่ในสภาพเศรษฐกิจและสังคมยุคปัจจุบันนี้ การจะไปให้ถึงความฝันหรือเป้าหมายนั้น ต้องบอกตามตรงว่า ‘เงิน’ อาจจะกลายมาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ
พอกล่าวแบบนี้...หลายๆ คนอาจจะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ไม่เป็นไรครับ DD-Wealth ขอชวนทุกคนลองนึกภาพตามไปพร้อมๆ กันก่อน คุณจะได้เข้าใจว่า‘เงิน’ นั้น มีส่วนสำคัญกับทุกๆ จังหวะของชีวิตจริงๆ
ถ้าสมมติว่านี่คือชีวิตของคุณ ตอนเป็นเด็กคุณคงอยากได้ของเล่นดีๆ อย่างที่เพื่อนมี เด็กข้างบ้านมี พอเข้าเรียนก็อยากเรียนที่โรงเรียนดีๆ เรียนจบออกมาก็อยากจะทำงานดีๆ ได้เงินเดือนสูงๆ พอเจอคนรู้ใจ มีคนรัก ก็อยากจะมอบของขวัญดีๆ ให้เขาประทับใจ และเมื่อถึงเวลาที่ความรักนั้นสุกงอม ก็อยากจะจัดงานแต่งงานดีๆ สวยหรูเหมือนในฝัน พอมีลูกก็อยากคลอดที่โรงพยาบาลซึ่งได้มาตรฐาน ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด เวลาคนในครอบครัวเจ็บป่วย ก็อยากไปโรงพยาบาลซึ่งมีคุณหมอที่เก่งที่สุดมารักษา อยากให้ลูกหลานมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ ด้าน และเมื่อตัวเราเริ่มมีอายุมากขึ้น ก็อยากมีเงินก้อนใหญ่เอาไว้ใช้จ่ายสบายๆ ในวัยเกษียณอย่างมีความสุขไปตลอดชีวิต แถมยังอยากมีมรดกทิ้งไว้ให้คนข้างหลังในยามที่เราจากโลกใบนี้ไปแล้วอีกด้วย
จากเรื่องที่เราได้ร่วมกันคิดนี้ DD-Wealth มีคำถามดังนี้ครับ
คำถามที่ 2 ถ้าคุณคิดเหมือนกัน เราอยากถามคุณว่า มีช่วงจังหวะไหนในชีวิต
ไหมครับ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ‘เงิน’ เลย
ซึ่งแน่นอนว่า ‘ไม่มี’ ถูกต้องไหมครับ และเพราะเหตุนี้เอง ‘การวางแผนการเงิน’ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตของคุณ
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นไปอีก DD-Wealth ขอเปรียบเทียบ ‘แผนการเงิน’ เป็น ‘แผนที่ชีวิต’ ของคุณ แผนที่ที่เปรียบ ‘เป้าหมายชีวิต’ เป็น ‘จุดหมายปลายทาง’ ที่ต้องไปให้ถึง เพื่อให้คุณได้รู้ว่าปัจจุบันคุณยืนอยู่ที่ไหน แล้วคุณจะเดินทางไปยังจุดหมายอย่างไร ‘แผนการเงิน’ หรือ ‘แผนที่ชีวิต’ นี้ จะช่วยคุณทั้ง 4 ด้าน ดังนี้ครับ
1. เมื่อคุณเดินทางผิดทิศทาง
เช่น ตอนนี้คุณกำลังอยู่ที่กรุงเทพมหานครและมีจุดหมายปลายทางคือเชียงใหม่ แต่คุณกลับเลือกขึ้นรถทัวร์ที่ไปกระบี่จากสถานีขนส่งสายใต้ ซึ่งไม่ว่าอย่างไรคุณก็จะไม่มีทางไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้ได้ด้วยเส้นทางนี้ เป็นต้น แผนที่ชีวิตนี้ก็จะทำให้คุณรู้และเข้าใจทิศทางที่คุณจะเดินได้อย่างถูกต้อง
2. เมื่อคุณใช้วิธีที่ผิดพลาด
เช่น มีจุดหมายคือประเทศสหรัฐอเมริกา แต่คุณกลับใช้วิธีเดินเท้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่จะไปถึงได้ แต่ถ้ามีการวางแผนจะทำให้คุณรู้และเข้าใจวิธีที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย และที่สำคัญก็คือเป็นวิธีการที่ง่าย หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ยากลำบากมากนัก
3. ถ้าคุณเดินถูกทิศทางและรู้วิธีที่จะเดินทางให้ถึงเป้าหมายแล้ว แผนนี้จะทำให้คุณมองเห็นช่องทางที่จะไปถึงจุดหมายได้ง่ายขึ้น
เช่น คุณมีความฝันที่จะไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกา และกำลังเก็บสะสมเงินเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน แผนซึ่งวางไว้นั้นจะทำให้คุณมั่นใจว่าคุณสามารถไปจุดหมายทันเวลาที่กำหนดแน่ๆ และอาจจะสามารถเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินแบบบินตรงไปยังจุดหมายได้เลย หรือไม่ก็อาจจะได้ไปเที่ยวก่อนเวลาเพราะสามารถเก็บเงินได้ครบตามจำนวนแล้ว และที่มากไปกว่านั้น แผนอาจจะทำให้คุณมองเห็นช่องทางการเก็บสะสมเงินจนสามารถมีงบประมาณในการใช้จ่ายระหว่างท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ครับ
4. ในกรณีที่คุณไม่รู้ตัวเลยว่า ณ ปัจจุบันคุณยืนอยู่ที่จุดไหน
จุดหมายของคุณคือที่ใด แผนนี้จะช่วยให้คุณตระหนักถึงจุดยืนของตัวเอง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทำให้คุณมองเห็นเป้าหมายของชีวิตได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เมื่อคุณได้รู้และเข้าใจว่า ‘แผนการเงิน’ คืออะไรแบบนี้แล้ว ในตอนต่อไป เราจะได้เรียนรู้กันต่อว่า...เมื่อไหร่กันนะ ที่เราต้องวางแผนการเงิน แล้วพบกันในตอนหน้านะครับ
Chaiwat Pattanapaiboon CFP®
นักวางแผนการเงิน